บริการและแพ็กเกจผ่าตัดลดอ้วน
ผ่าตัดลดอ้วน คืนสุขภาพและความมั่นใจให้คุณ

การผ่าตัดลดอ้วน (Bariatric Surgery) เป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก สำหรับผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน และไม่สามารถลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหารหรือออกกำลังกายเพียงอย่างเดียวได้ การผ่าตัดช่วยลดขนาดกระเพาะอาหารหรือปรับเปลี่ยนเส้นทางการย่อยอาหาร ทำให้รับประทานอาหารได้น้อยลง รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น และช่วยควบคุมน้ำหนักในระยะยาว

แพ็กเกจผ่าตัดลดอ้วน
แพ็กเกจผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหารผ่านกล้อง (Sleeve)
เริ่มต้น 239,000 บาท
แพ็กเกจผ่าตัดกระเพาะอาหารแบบสลีฟพลัส (Sleeve Plus)
เริ่มต้น 389,000 บาท
แพ็กเกจผ่าตัดกระเพาะอาหารแบบบายพาส (Roux-en-Y Gastric Bypass)
เริ่มต้น 389,000 บาท
เงื่อนไข :
ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อรับข้อมูลที่ถูกต้องและเหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล
ทำไมต้องผ่าตัดลดอ้วน?
วิธีการรักษาที่มีให้บริการ
1. ผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหารผ่านกล้อง (Sleeve Gastrectomy)

การผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหารผ่านกล้อง หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า ผ่าตัดสลีฟ เป็นการผ่าตัดที่ศัลยแพทย์จะตัดกระเพาะอาหารส่วนใหญ่ (ประมาณ 70–80%) ออกไป

ผลลัพธ์หลังเข้ารับการบริการ

ทำให้กระเพาะเหลือเล็กลง บรรจุอาหารได้น้อยลง และรู้สึกอิ่มเร็วขึ้น โดยยังคงระบบย่อยอาหารตามธรรมชาติครบถ้วน ไม่ได้มีการลัดลำไส้เหมือนการผ่าตัดบางแบบ เช่น gastric bypass

เหมาะสำหรับ

ผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน ที่ต้องการลดน้ำหนักโดยไม่ซับซ้อนมาก

2. การผ่าตัดแบบสลีฟพลัส (Sleeve Plus)

การผ่าตัดสลีฟพลัส หรือที่เรียกว่า Laparoscopic Sleeve Plus Proximal Jejunal Bypass เป็นการผสมผสานระหว่างการผ่าตัดแบบสลีฟ (ตัดกระเพาะ 70–80%) ร่วมกับการบายพาสลำไส้เล็กส่วนต้น (proximal jejunum) ไปยังลำไส้เล็กส่วนกลาง (mid jejunum)

ผลลัพธ์หลังเข้ารับการบริการ

การผ่าตัดนี้ช่วยให้ปริมาณอาหารที่รับประทานน้อยลง ลดการผลิตฮอร์โมนความหิว และยังช่วยเพิ่มความรู้สึกอิ่ม ลดความอยากอาหาร พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมโรคร่วม เช่น เบาหวาน ความดัน และไขมันในเลือดสูง

เหมาะสำหรับ

ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์มากกว่าการทำสลีฟปกติ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคร่วมจากความอ้วน

3. การผ่าตัดแบบบายพาส (Roux-en-Y Gastric Bypass: RYGB)

เป็นหนึ่งในวิธีการผ่าตัดที่ได้รับความนิยมทั่วโลก โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคอ้วนขั้นรุนแรงหรือมีภาวะแทรกซ้อนจากความอ้วน เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

ผลลัพธ์หลังเข้ารับการบริการ

ศัลยแพทย์จะสร้างกระเพาะอาหารใบเล็กขึ้นมา แล้วต่อเข้ากับลำไส้เล็กโดยตรง ทำให้รับประทานอาหารได้น้อยลง รู้สึกอิ่มเร็ว และร่างกายดูดซึมอาหารและพลังงานลดลง ส่งผลให้น้ำหนักลดได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง

เหมาะสำหรับ

ผู้ป่วยโรคอ้วนรุนแรง หรือผู้ที่เคยพยายามลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่นแล้วไม่ได้ผล

4. การเย็บกระเพาะอาหารทางช่องปากผ่านกล้อง (Endoscopic Sleeve Gastroplasty: ESG)

เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ไม่ต้องผ่าตัดเปิดหน้าท้อง ใช้วิธีส่องกล้อง (endoscope) ผ่านทางปากเข้าไปที่กระเพาะอาหาร จากนั้นศัลยแพทย์จะเย็บกระเพาะจากด้านในให้มีขนาดเล็กลง คล้ายการผ่าตัดแบบสลีฟ แต่ไม่ต้องตัดกระเพาะออก

ผลลัพธ์หลังเข้ารับการบริการ

เมื่อไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ผู้ป่วยจะฟื้นตัวเร็ว และโรคร่วมจากโรคอ้วน เช่น เบาหวานและความดัน มักดีขึ้นตามลำดับ หากปรับพฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานหลายปี

เหมาะสำหรับ

ผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วนที่ต้องการวิธีที่เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว และไม่อยากผ่าตัดใหญ่

5. การใส่บอลลูนกระเพาะอาหารผ่านกล้อง (Gastric Balloon)

เป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด โดยการใส่บอลลูนซิลิโคนขนาดเล็กเข้าไปในกระเพาะอาหารผ่านการส่องกล้อง (gastroscope) จากนั้นจะเติมน้ำเกลือเข้าไปในบอลลูนเพื่อให้พองตัวอยู่ในกระเพาะอาหาร

ผลลัพธ์หลังเข้ารับการบริการ

เมื่อมีบอลลูนอยู่ภายใน จะทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น กินอาหารได้น้อยลง ส่งผลให้น้ำหนักลดลงในระยะเวลาที่กำหนด

เหมาะสำหรับ

ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักแบบไม่ผ่าตัด เหมาะกับผู้ที่มีน้ำหนักเกินระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง

ตารางเปรียบเทียบวิธีการผ่าตัดและหัตถการลดอ้วน
วิธีผ่าตัด กลไกหลัก ลดน้ำหนัก
เฉลี่ย/ต่อน้ำหนักตัว
เหมาะกับใคร จุดเด่น
Sleeve
ลดขนาด
กระเพาะอาหาร
30%
อ้วนทั่วไป
ทำง่าย ระบบย่อย
อาหารยังปกติ
Sleeve Plus
ลดขนาดกระเพาะ +
บายพาสบางส่วน
35 – 40 %
อ้วน + โรคร่วม
คุมเบาหวาน ไขมัน
ความดัน
Gastric Bypass
(RYGB)
กระเพาะใบเล็ก +
เปลี่ยนเส้นทางลำไส้
35 – 40 %
อ้วนรุนแรง
ลดอ้วนเร็ว ควบคุม
โรคร่วมชัดเจน
ESG
เย็บกระเพาะผ่าน
ส่องกล้อง ไม่ตัดออก
15 %
อ้วนระดับเล็ก–กลาง
ไม่ผ่าตัดใหญ่
เจ็บน้อย ฟื้นไว
Gastric Balloon
ใส่บอลลูนซิลิโคน
ในกระเพาะอาหาร
10 – 15 %
น้ำหนักเกิน –
อ้วนเล็กน้อย
วิธีง่าย ไม่ผ่าตัด

หากท่านสนใจหรืออยู่ระหว่างการพิจารณาการรักษาด้วยวิธีนี้ ขอแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อรับข้อมูลที่ถูกต้องและเหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล

ผลลัพธ์ที่คาดหวัง
ความปลอดภัยและการดูแลหลังผ่าตัด
FAQ (คำถามที่พบบ่อย)
หลังผ่าตัดต้องพักฟื้นกี่วัน?

ส่วนใหญ่พักที่โรงพยาบาล 3-5 วัน และใช้ชีวิตประจำวันได้ภายใน 1–2 สัปดาห์

ผ่าตัดอันตรายไหม?

ใช้เทคนิคผ่านกล้อง ปลอดภัยสูง เจ็บน้อย และมีทีมแพทย์ดูแลใกล้ชิด

วิธีไหนเหมาะกับฉันที่สุด?

ขึ้นอยู่กับสุขภาพ น้ำหนัก และโรคร่วม ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุด

หากท่านสนใจหรืออยู่ระหว่างการพิจารณาการรักษาด้วยวิธีนี้ ขอแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อรับข้อมูลที่ถูกต้องและเหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล